หมวดหมู่
วันที่ 19 มิถุนายน 2562 คณะทำงานรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น และเจ้าหน้าที่จากกองโลจิสติกส์ เข้าตรวจประเมินสถานประกอบการ กิจกรรมตรวจประเมินรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
วันที่ 19 มิถุนายน 2562 คณะทำงานรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น และเจ้าหน้าที่จากกองโลจิสติกส์ เข้าตรวจประเมินสถานประกอบการ กิจกรรมตรวจประเมินรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ณ บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา
27 มิ.ย. 2562
กิจกรรมสัมมนา Industrial Supply Chain Logistics Conference 2019
กิจกรรมสัมมนา Industrial Supply Chain Logistics Conference 2019โลจิสติกส์เสริมแกร่งภายใต้กิจกรรมพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์เพื่อการลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2562 เวลา 9.00 – 16.00 น. ณ ห้อง sapphire 204 และ 205 Impact เมืองทองธานี ท่านจะได้พบกับ การบรรยายพิเศษ เรื่อง “How Digital Transformation is Reshaping the Food Supply Chain” โดย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน การบรรยายพิเศษ เรื่อง “Modern Marketing is Transforming Supply Chain Management” โดย นายธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย การนำเสนอ Success Cases ผลการศึกษาการเชื่อมโยงโซ่อุปทานในสถานประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป กิจกรรมอื่นๆ รายละเอียดเพิ่มเติม http://logistics-conference.com ติดต่อสอบถามผู้ประสานงาน - คุณกฤตณัฐ 083-229-5454 - คุณสมภัสสร 086-362-8969 - คุณรุจิราภรณ์ 091-781-5574 คลิกเพื่อลงทะเบียนออนไลน์
25 มิ.ย. 2562
ขอเชิญเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการ “โครงการเสริมแกร่ง SME ด้านโลจิสติกส์ ”
ขอเชิญเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการ “โครงการเสริมแกร่ง SME ด้านโลจิสติกส์ ” ในวันที่ 7-9,15-16 สิงหาคม 2562 เวลา 09.00 - 16.30 น. ณ โรงแรมอีสติน กรุงเทพฯ โดยมีเนื้อหาหลักสูตรประกอบไปด้วย- กลยุทธ์การจัดการโลจิสติกส์- การพยากรณ์และการวางแผน - การจัดการคลังสินค้าและการกระจายสินค้า- การส่งออกภายในประเทศและระหว่างประเทศ- และอื่นๆ และจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ สถานประกอบการที่เป็นต้นแบบด้านโลจิสติกส์ 3-4 สถานประกอบการ รวมทั้ง กิจกรรมสร้างเครือข่าย 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคม 2562จึงขอเรียนผู้สนใจเข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น รับจำนวนจำกัด 40 กิจการ คลิกเพื่อลงทะเบียนออนไลน์
25 มิ.ย. 2562
งานมหกรรมภาคอุตสาหกรรมแห่งปี ของผู้ประกอบการไทยที่จะช่วยติดอาวุธทางธุรกิจ Thailand Industry Expo 2019‘Synergy for Success’ สานพลัง ร่วมใจ วิวัฒน์อุตสาหกรรมสู่อนาคต
งานมหกรรมภาคอุตสาหกรรมแห่งปี ของผู้ประกอบการไทยที่จะช่วยติดอาวุธทางธุรกิจ Thailand Industry Expo 2019 ‘Synergy for Success’ สานพลัง ร่วมใจ วิวัฒน์อุตสาหกรรมสู่อนาคต ???? พบกับ นวัตกรรมเด่น และเทคโนโลยีดิจิทัลสุดล้ำ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสทางธุรกิจอัพเดทเทรนด์โลกธุรกิจมาแรงแห่งยุค เพิ่มโอกาสต่อยอดธุรกิจใหม่ ๆ พร้อมติดอาวุธทางธุรกิจด้วยสัมมนาครบเครื่อง เพื่อติดสปีดให้ผู้ประกอบการก้าวทันความเปลี่ยนแปลงและตื่นตาตื่นใจ...กับสินค้าระดับพรีเมี่ยมคุณภาพส่งออก และสินค้าเด่นทั่วไทย 17 - 21 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandindustryexpo.com
19 มิ.ย. 2562
ขอเชิญเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ " LEAN Startup and Innovation for Logistics Sector "
ขอเชิญเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ " LEAN Startup and Innovation for Logistics Sector "ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 เวลา 8.30 - 16.30 น. ณ โรงแรมบางกอกพาเลส มักกะสัน กรุงเทพฯ คลิกเพื่อลงทะเบียนออนไลน์
19 มิ.ย. 2562
ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมอบรม สัมมนา Logistics Showcase’62 ครั้งที่ 2 พื้นที่ภาคใต้ หัวข้อ “เสริมศักยภาพ ติดปีกธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สู่การค้าระดับสากล”
ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมอบรม สัมมนา Logistics Showcase’62 ครั้งที่ 2 พื้นที่ภาคใต้ หัวข้อ “เสริมศักยภาพ ติดปีกธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สู่การค้าระดับสากล” ระหว่างวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2562 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมสมิหลา 2 โรงแรมบีพี สมิหลา บีช จ.สงขลา Day 1 : วันที่ 2 กรกฎาคม 2562 การบรรยายพิเศษหัวข้อ “ครบเครื่องเรื่องควรรู้ ส่งออกอย่างไร ให้ได้กำไรสูงสุด” โดย : ดร.ดร. ศรีสลา ภวมัยกุล กรรมการบริหารสายซัพพลายเชน บริษัท สยามอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร จำกัด (มหาชน) ส่งออกเรียบร้อยแล้วแปลว่ารอรับกำไรจริงหรือ? จะทำอย่างไร หากผู้นำเข้าตรวจปล่อยสินค้าไปแล้วแต่ไม่ชำระเงิน หรือ ไม่ยอมรับสินค้าแล้วส่งกลับ กฎ ระเบียบใหม่ ที่ต้องระวัง Day 2 : วันที่ 3 กรกฎาคม 2562. วิทยากร : ดร.กฤษฎ์ ฉันทจิรพร ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับสากล กลยุทธ์การเชื่อมโยงการบริหารความต้องการสู่กลยุทธ์การผลิตและโลจิสติกส์ แนวปฏิบัติที่ดีสำหรับการจัดการคลังสินค้าและการกระจายสินค้า คลิกเพื่อลงทะเบียนออนไลน์
14 มิ.ย. 2562
กิจกรรม​ Research​ Connect​ และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการขยายผลการศึกษาวิจัยเทคโนโลยี​ และนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์​ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกับเครือข่ายพันธมิตรมหาลัยเพื่อการวิจัย​ 8​ มหาวิทยาลัย
กิจกรรม Research Connect และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการขยายผลการศึกษาวิจัยเทคโนโลยี และนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกับเครือข่ายพันธมิตรมหาลัยเพื่อการวิจัย 8 มหาวิทยาลัยวันจันทร์ ที่ 10 มิถุนายน 2562 เวลา 09.00 - 16.30ณ ห้อง Mayfair Ballroom โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ โฮเต็ล ประตูน้ำ กรุงเทพฯกล่าวเปิดโดย นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
14 มิ.ย. 2562
โลจิสติกส์อัจฉริยะ (Smart Logistics)
วศ.สิริพงศ์ จึงถาวรรณ, ACPE, CSCP, EPPM จากฉบับก่อนที่ผมเขียนถึง โลจิสติกส์แบบลีน (Lean Logistics) ไปแล้ว ในฉบับนี้ ผมจะเพิ่มข้อมูลในส่วนของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในกิจกรรมโลจิสติกส์ ตั้งแต่ต้นน้ำจนไปถึงปลายน้ำ หรือ End-to-end (E2E) ก่อนอื่นมาดูกันว่าโลกสากลมองแบบจำลองโลจิสติกส์ 4.0 กันอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ยุคแรกๆ โลจิสติกส์ 1.0 เปลี่ยนจากการเพาะปลูก ล่าสัตว์ในปลายศตรวรรษ 18 เริ่มมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดการสร้างเครื่องจักรไอน้ำ เริ่มทำอุตสาหกรรมเบาๆ เกิดการต่อเรือเดินสมุทร สร้างทางรถไฟ การทำเครื่องบิน ขึ้นมา รูปแบบการผลิตเป็นแบบผลัก (Push) ส่งมอบสินค้าและบริการไปที่ตลาด โดยไม่ได้สนใจความต้องการของลูกค้ามากนัก โลจิสติกส์ 2.0 เกิดขึ้นเมื่อภาคอุตสาหกรรมสามารถพัฒนาวัตถุดิบใหม่ๆ เช่น เหล็ก ทองแดง อลูมิเนียม ทำให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องตามมา การผลิตไฟฟ้า และการสื่อสารที่ดีขึ้น เกิดระบบการผลิตแบบเน้นปริมาณ (Mass production) นำโดยค่ายรถยนต์ Ford รุ่น Model T ที่พัฒนาการผลิตแบบสายการผลิตแบบประกอบ (Assemble Line) ที่เกิดการพลิกโลกอีกครั้ง ทำให้โลกทั้งโลกเชื่อมโยงกันด้วยการสร้างถนนหนทาง เริ่มมีเครื่องไม้เครื่องมือในการช่วยในงานขนถ่าย เคลื่อนย้ายสินค้า (Material Handling) มากขึ้น มีการสร้างคลังสินค้าง่ายๆ กองสินค้าบนพื้น หรือกองสินค้าบนพาเลต ไปจนถึงการสร้างตัวคัดแยกอัตโนมัติ (Sorter) คลังสินค้าอัตโนมัติเริ่มเกิดขึ้น มีการใช้รถยกสินค้า (Forklift) การจัดการขนส่งแบบรวมศูนย์ (Centralization) บริหารจากกองยานพาหนะกลาง โลจิสติกส์พัฒนากลายเป็นโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ขยายขอบเขตไปทั่วทั้งโลก เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว โลกกลับมาแบนอีกครั้ง เพราะเทคโนโลยีการสื่อสาร โลจิสติกส์ยุคที่ 3.0 เกิดอุตสาหกรรม เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ข้อมูลและสารสนเทศเริ่มเชื่อมโยงกันบ้างในบางองค์กร ทำให้เกิดการสั่งและบริหารสินค้าแบบดึง (Pull) ใช้ความต้องการของลูกค้าเป็นตัวผลักดันธุรกิจ เริ่มมีรถยกไฟฟ้า การบริหารกองยานพาหนะในภาพรวมเชิงบูรณาการมากขึ้น เพราะสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยให้กระบวนการต่างๆ ง่ายขึ้น คอมพิวเตอร์พัฒนาการเปลี่ยนเป็นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์และมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ จากจอเขียว มาเป็นจอขาวดำ และจอสีแบบในปัจจุบัน ในช่วง 1960 เริ่มมีการนำหุ่นยนต์มาช่วยในงานภาคอุตสาหกรรม เกิดระบบการจัดการโลจิสติกส์ต่างๆ เช่น ระบบการจัดการการขนส่ง (Transportation Management Systems: TMS) ระบบจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management Systems: WMS) และการพัฒนาเครือข่าย (Network) โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) และสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่ดียิ่งขึ้น โลจิสติกส์ในปัจจุบัน ก้าวไปมากกว่าความเป็นโลจิสติกส์ในยุคแรกๆ ที่ทำงานแบบแยกส่วน (Silo) เกิดความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น อินเตอร์เนตแห่งสรรพสิ่ง (Internet of Thing: IoT) ทำให้กระบวนการทุกอย่างเชื่อมกันอย่างไร้รอยต่อ (Seamless) ตั้งแต่ การวางแผน การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บ การส่งมอบ และการเก็บเงิน ในยุคที่เราสามารถตรวจติดตามสถานการณ์ต่างๆ ได้บนมือถืออัจฉริยะเพียงเครื่องเดียว เกิดโลกเสมือน (Cyber) และโลกจริงควบคู่กัน (Cyber-Physical Systems: CPS) ตั้งแต่ ชั้นวางสินค้าอัตโนมัติที่เคลื่อนที่ได้เอง รถยกอัตโนมัติ รถยนต์ขับได้เองสามารถควบคุมติดตามปัจจัยต่างๆ อาทิ ระบบตรวจวัดความดันลมยาง (Tire-pressure Monitoring System: TPMS) ระบบติดตามตำแหน่งด้วยระบบระบุตำแหน่งบนพื้นโลก (Global Positioning System: GPS) เซนเซอร์อัจฉริยะที่ช่วยในการขับขี่ (Mobileye) โดรนบินส่งสินค้า การรับส่งสินค้าถึงหน้าประตู และในอนาคตอันใกล้ ผู้จัดส่งสินค้า จะเปิดประตูบ้านของท่านผ่านระบบอัจฉริยะ (Smart Door) ผ่านเข้าไปส่งสินค้าในบ้าน โดยที่ท่านสามารถเปิดกล่อง CCTV ดูได้ว่าใครมาทำอะไร ส่งสินค้าใด วางไว้ตรงไหน ลองไปดูกรณีศึกษาระดับสากล Amazon ผู้จำหน่ายสินค้าออนไลน์ (e-commerce) ยักษ์ใหญ่ Amazon มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง จากการเริ่มต้น พัฒนาธุรกิจใหม่จากระบบ Online สู่ระบบ Offline ที่เรียกว่า Online to Offline (O2O) โดยต้นปี 2560 ได้เปิดสาขา Amazon Go ที่ Seattle, Washington สหรัฐอเมริกา “เพียงเปิด Application Amazon Go ในมือถือ เดินเข้าร้าน ยิง QR Code หยิบสินค้า เดินออกจากร้าน ค่าใช้จ่ายก็จะถูกหักผ่านบัตรเครดิตทันที” ระบบจะนำข้อมูลสินค้าใส่เข้าในตะกร้าเสมือน (Visual cart) ถ้าเปลี่ยนใจไม่เอาสินค้าใด ระบบจะอัพเดทตัดสินค้าออกไปทันทีด้วยระบบหลังบ้าน ทั้ง Computer Vision, Deep Learning Algorithms, AI, Sensor fusion แบบเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์อัตโนมัติ พร้อมตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติ Amazon เรียก เทคโนโลยีนี้ว่า Just Walk Out Technology เดินออกจากร้านพร้อม รายงานตัดยอดเงินบนมือถือ ไม่มีการต่อแถว ไม่ต้องยืนรอชำระเงิน (No Lines, No check Out) ส่วนระบบโลจิสติกส์สนับสนุนหลังบ้าน Amazon Fulfillment Center ตั้งแต่ คลังสินค้าและกระจายสินค้า จนถึงระบบโลจิสติกส์ ด้วยคลังสินค้าขนาดมากกว่า 1.1 ล้านตารางฟุต ในปี 2015 Amazon ส่งสินค้าไปมากกว่า 51 ล้านชิ้น มีสินค้าที่ถูกขาย 629 ชิ้นในทุกๆ วินาที ใช้หุ่นยนต์ Kiva ในการขนสินค้าตามคำสั่งซื้อ ในรูปแบบเดิมๆ พนักงานจะเดินเข้าไปหยิบสินค้า ถ้าอยากดูคลิปสามารถยิง QR Code เข้าไปดูกันได้เลยครับ จะเห็นได้ว่า โลจิสติกส์อัจฉริยะ (Smart Logistics) ทำให้โลจิสติกส์แบบลีน “การส่งมอบในเวลาที่ต้องการ ปริมาณที่ต้องการ ส่งได้อย่างสะดวก และมุ่งกำจัดความสูญเปล่าในกระบวนการโลจิสติกส์ออกไป เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการโลจิสติกส์ต่างๆ ให้เข้ากับลูกค้า (อุปสงค์) มากที่สุด” กลายเป็นจริง ตามที่ผมได้นำเสนอไปในฉบับก่อนได้เป็นอย่างดี เอกสารอ้างอิง วิทยา สุหฤทดำรง, 2553, การกระจายสินค้าแบบลีน, กรุงเทพมหานคร: อี.ไอ. สแควร์. สิริพงศ์ จึงถาวรรณ, 2561, LEAN ผู้ประกอบการยุคใหม่ จากก้าวเล็กๆ สู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในโลกธุรกิจ, กรุงเทพมหานคร: Dดี (ติดอันดับหนังสือขายดี (Best Seller) ภายในวันแรกที่วางจำหน่าย). สิริพงศ์ จึงถาวรรณ, 2560, LEAN ลดต้นทุนธุรกิจ งานเสร็จไว กำไรพุ่ง, กรุงเทพมหานคร: Dดี (ติดอันดับหนังสือขายดี (Best Seller) ภายในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย). Laura Domingo Galindo, 2016, The Challenges of Logistics 4.0 for the Supply Chain Management and the Information Technology, Master of Science in Mechanical Engineering, Norway: Norwegian University of Science and Technology.
31 พ.ค. 2562
โลจิสติกส์แบบลีน เรื่องง่ายใกล้ๆ ตัว
โดย วศ.สิริพงศ์ จึงถาวรรณ, ACPE, CSCP, EPPM ทำไมภาคธุรกิจจึงเริ่มให้ความสนใจ “ลีน (Lean)” เนื่องจากโตโยต้าในช่วงปี ค.ศ. 2005 ซึ่งมียอดขายอันดับ 4 ของโลก แต่มีกำไรมากกว่า ผู้ผลิตรถยนต์ 3 ยักษ์ใหญ่จากค่ายอเมริกัน นั้นคือ GM, Ford, และ Chrysler ที่กำไรเพียง 1.9% 2.4% และ 0.3% ตามลำดับ กำไรรวมกันแค่ 4.6% แต่โตโยต้าเพียงบริษัทเดียวกำไรสูงถึง 6.7% หรือมากกว่าทั้ง 3 บริษัทถึง 2.1% และปัจจุบันได้ก้าวขึ้นเป็นโรงงานผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลกแล้ว ทางอเมริกาจึงส่งคณะวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology: MIT) นั้นคือ James P. Womack และ Daniel T. Jones ทีมนักวิจัยด้านรัฐศาสตร์จากศูนย์วิจัยยานยนต์นานาชาติ (the International Motor Vehicle Program: IMVP) เข้าไปทำการศึกษาวิจัยด้านขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ และสุดท้ายได้แต่งหนังสือ แนวคิดแบบลีน : กำไรมากขึ้น... ด้วยทรัพยากรน้อยลง (Lean Thinking: Banish Waste and Create Wealth in Your Corporation) ซึ่งมีแปลเป็นภาษาไทยด้วย โดยสรุป ลีน จึงหมายถึง “การเน้นไปที่การสร้างคุณค่า (Value) และขจัดความสูญเปล่า (Wastes) โดยมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement: CI)” หลายๆ ภาคธุรกิจจึงนำหลักการนี้ไปใช้ในธุรกิจของตนเอง ตั้งแต่ คู่แข่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอและเสื้อผ้า รวมไปถึงภาคการบริการ เช่น โรงพยาบาล โรงแรม หน่วยงานภาครัฐ ในธุรกิจเริ่มต้นใหม่ (Startup) ก็นำไปใช้ในการสร้างไอเดีย และกลายเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตั้งแต่แรก ไม่เว้นธุรกิจโลจิสติกิส์ ก็เช่นกัน ลองมาดูกันว่า โลจิสติกส์แบบลีน คืออะไร แม้ว่าโลจิสติกส์ไม่ได้ให้คุณค่าเชิงการผลิตหรือแปรสภาพสินค้า แต่มีคุณค่าในเชิงการไหล (Flow) เวลา (Time) สถานที่ (Place) และวิธีการส่งมอบ (Delivery) “การส่งมอบในเวลาที่ต้องการ ปริมาณที่ต้องการ ส่งให้ใช้ได้อย่างสะดวก และมุ่งกำจัดความสูญเปล่าในกระบวนการโลจิสติกส์ออกไป เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการโลจิสติกส์ต่างๆ ให้เข้ากับลูกค้า (อุปสงค์) มากที่สุด” ความสูญเปล่าในโลจิสติกส์ สามารถแบ่งกลุ่มได้ ดังนี้ (ดัดแปลงจาก Thomas Goldsby and Robert Martichenko, 2005) สินค้าคงคลัง (Inventory) ทุกประเภท อาทิ วัตถุดิบ ชิ้นส่วน งานระหว่างกระบวนการ สินค้าสำเร็จ สินค้าต่างๆ ที่เกิดจากการเก็บเผื่อไว้มากเกินไป ปริมาณสินค้าไม่เพียงพอต่อการขายทำให้เกิดของขาดหรือล้นเกินไป การนำส่งสินค้าผิด รุ่น ชนิด จำนวน เป็นต้น การขนส่ง (Transportation) ตั้งแต่ - การเปลี่ยนโหมดการขนส่งไม่เหมาะสม เช่น เครื่องบินต่อรถ เรือต่อรถ รถต่อเรือ - ขนาดยานพาหนะที่ใช้ ขนาดเครื่องยนต์แรงม้าที่มากกว่าน้ำหนักหรือปริมาณสินค้าที่บรรทุก รวมไปถึงการยกเพลาขึ้นเมื่อไม่มีภาระขนส่งสินค้า เพื่อลดแรงเสียดทานและภาระของเครื่องยนต์ - วิธีการขับขี่อย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน (Eco-driving) การออกรถด้วยเกียร์ 2 การจอดรถแล้วติดเครื่องทิ้งเอาไว้ การเร่งเครื่องยนต์ขึ้นบ่อยๆ การเบรกรถยนต์กระชั้นชิด - ชนิดของล้อยาง ควรใช้ล้อยางประเภทประหยัดพลังงาน สามารถหล่อดอกยางได้หลายๆ ครั้ง ทำให้วิ่งได้ระยะทางกิโลเมตรที่มากที่สุด ส่วนความดันลมยาง ถ้ายางลมอ่อนทำให้กินน้ำมัน ต้องเติมลมยางตามปริมาณความดันสูงสุดที่ระบุไว้ข้างแก้มยาง เพื่อไม่ให้โครงสร้างยางเสียหาย การตั้งศูนย์เพื่อให้ล้อวิ่งไปทิศทางเดียวกันไม่ต้านกันเอง - ชนิดน้ำมันเครื่อง ใช้น้ำมันเครื่องเกรดต่ำทำให้ต้องเข้าศูนย์บริการบ่อยๆ เช่น น้ำมันเครื่องที่วิ่งได้ระยะทาง 10,000 กิโลเมตร เทียบกับน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่วิ่งได้ 50,000 กิโลเมตร ทำให้เสียเวลาในการนำรถไปบริการลูกค้า เสียโอกาสในการวิ่งงานให้กับลูกค้าไปทันทีอีก 4 ครั้ง - การบรรทุกสินค้าไม่เต็มปริมาณลูกบาศก์ ทำให้สูญเสียต้นทุนมากกว่าปกติ เพราะขนอากาศไปด้วย จะพบได้เสมอในโรงงานฉีดขวดพลาสติก สามารถแก้ไขได้ด้วยการย้ายเครื่องฉีดขวดพลาสติกไปใกล้ๆ แหล่งบรรจุน้ำดื่ม - การวิ่งเที่ยวเปล่าขากลับ (Backhauling) ต้องเริ่มทำการขนส่งแบบ Milk Run วิ่งรับ-ส่งสินค้าหลายๆ ที่หลายๆ Drop แทนที่จะวิ่งรถขนสินค้าตรงไปเจ้าเดียว และวิ่งรถเที่ยวเปล่ากลับ - การออกแบบระบบทั้งแบบ Hub and Spoke และการออกแบบ Nodes and Links เพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากที่สุด ระบบ (Systems) งานขั้นตอนต่างๆ ที่ทำให้เกิดการรอคอย รอระบบประมวลผล ระบบทำผิดพลาด กรอกข้อมูลผิด กรอกข้อมูลซ้ำๆ ทำให้เสียเวลา งานธุรการ (Administration) งานธุรการที่ต้องทำงานเอกสารสำเนาเยอะๆ การทวนสอบที่มากเกิดความจำเป็น ลูกบาศก์ที่เก็บและขน (Cube) การขนอากาศแทนที่จะขนสินค้า การจัดเรียงสินค้าไม่ดีมีช่องว่าง มีช่องเผื่อเยอะ ทำให้ขนสินค้าไม่ได้เติมปริมาตรลูกบาศก์ ผมเคยให้คำปรึกษาธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ ลองไปดูขณะคู่แข่งระหว่างธุรกิจขนสินค้าเข้าหน้าร้าน รถขนสินค้าเปิดท้ายออกมา ขนสินค้าเติมจนชนเพดานรถ แทบไม่มีที่ว่างเลย เดี๋ยวนี้มีซอฟร์แวร์ช่วยบริหารจัดการปริมาตรลูกบาศ์กแล้วครับ บรรจุภัณฑ์ (Packaging) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ไม่เหมาะสม รูปทรงไม่เอื้อต่อการจัดการ เช่น บรรจุภัณฑ์ทรงกลม ทำให้ซ้อนและวางได้ยาก ต้องมีออกแบบบรรจุภัณฑ์ร่วมกันทั้งฝ่ายขนส่ง ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดหาวัสดุ เพื่อทำให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่เอื้อต่อการโลจิสติกส์ เวลา (Time) เวลาในการนัดหมายต้องตรงเวลาจะได้ไม่เสียเวลาไปต่อคิวท้ายแถว เจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ ตามนิคมอุตสาหกรรม ต้องติดตามสถานะสินค้าได้ รถบางคันไปแอบจอดดูดน้ำมันไปขายก็เคยเจอมาแล้ว ต้องติดตามสถานะได้และจับระยะเวลาจอดรถทิ้งไว้นานจนผิดสังเกตุ และการรอคอยขึ้นลงสินค้าที่ใช้ระยะเวลานานต้องคิดหาอุปกรณ์มาช่วย บางรายเริ่มใช้ผ้าม่านแทนตู้ระบบปิด เพื่อให้สะดวกตอนขึ้น-ลงสินค้า สามารถนำรถโฟล์คลิฟท์มายกสินค้าเข้า-ออกได้พร้อมๆ กันทีละ 2-3 คัน ความรู้ (Knowledge) ความคิดสร้างสรรค์ของคนงานที่ไม่ได้นำมาใช้ ไม่ได้ใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อมาช่วยให้การทำงานสะดวกและง่ายขึ้น จะเห็นว่าจริงๆ โลจิสติกส์แบบลีน เป็นเรื่องใกล้ๆ ตัว แต่เรามักไม่ได้สังเกตุ และใส่ใจ ถ้าเริ่มนำสิ่งที่ได้อธิบายไว้ไปพัฒนาและลงมือทำจริงก็จะทำให้ท่านลดต้นทุนธุรกิจ งานเสร็จไว ระดับการบริการให้ลูกค้าได้มากขึ้น และกำไรพุ่ง แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้านะครับ เอกสารอ้างอิง วิทยา สุหฤทดำรง, 2553, การกระจายสินค้าแบบลีน, กรุงเทพมหานคร: อี.ไอ. สแควร์. สิริพงศ์ จึงถาวรรณ, 2561, LEAN ผู้ประกอบการยุคใหม่ จากก้าวเล็กๆ สู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในโลกธุรกิจ, กรุงเทพมหานคร: Dดี (ติดอันดับหนังสือขายดี (Best Seller) ภายในวันแรกที่วางจำหน่าย). สิริพงศ์ จึงถาวรรณ, 2560, LEAN ลดต้นทุนธุรกิจ งานเสร็จไว กำไรพุ่ง, กรุงเทพมหานคร: Dดี (ติดอันดับหนังสือขายดี (Best Seller) ภายในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย). Thomas Goldsby and Robert Martichenko, 2005, Lean Six Sigma Logistics: Strategic Development to Operational Success, US: J.Ross.
31 พ.ค. 2562
ตรวจสุขภาพธุรกิจของคุณแล้วหรือยัง?
สรศักดิ์ สมเจษ นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการพิเศษ ผู้ประกอบการยุคใหม่ จำเป็นต้องคิดไกลมากกว่าการทำธุรกิจภายในประเทศ เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารทำให้โลกแคบลง และติดต่อทำการค้าระหว่างกันง่ายขึ้น โลกของธุรกิจยุคใหม่ ลูกค้าจะไม่ได้มีแค่คนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นลูกค้าต่างประเทศ ดังนั้นการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน หรือระบบการจัดการการส่งสินค้า ข้อมูล และทรัพยากรจากจุดต้นทางไปยังจุดบริโภคตามความต้องการของลูกค้า จึงต้องมีความเป็นมืออาชีพและมีมาตรฐานระดับนานาชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจ และรักษาการเติบโตได้อย่างยั่งยืน และเพื่อเป็นเครื่องมือให้ผู้ประกอบการไทยได้ตรวจเช็คศักยภาพของตนเองในการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้จัดทำและพัฒนาฐานข้อมูลเกณฑ์เทียบวัด (Benchmark) โดยการสำรวจจัดเก็บข้อมูลตัวชี้วัดประสิทธิภาพโลจิสติกส์ภาคอุตสาหกรรม (Industrial Logistics Performance Index: ILPI) และข้อมูลเกณฑ์ประเมินศักยภาพการจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Scorecard: LSC) แยกตามกลุ่มอุตสาหกรรม (International Standard Industrial Classification: ISIC) จากสถานประกอบการชั้นนำในกลุ่ม (Best in Class) โดยดำเนินการจัดเก็บตัวชี้วัด พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลจากการสำรวจจัดเก็บและพัฒนาฐานข้อมูลสู่การจัดทำเกณฑ์เทียบวัดประสิทธิภาพโลจิสติกส์ จากผู้นำกลุ่มให้มีมาตรฐาน เพื่อให้สถานประกอบการสามารถนำเกณฑ์เทียบวัดไปใช้เป็นเกณฑ์การประเมินสมรรถนะความสามารถในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ในสถานประกอบการของตนเอง และนำผลของการเปรียบเทียบมาใช้ในการปรับปรุงองค์กรของตนเองเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ ผู้ประกอบการที่สนใจตรวจเช็คสุขภาพธุรกิจ ด้านการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สามารถทำได้ด้วยตนเอง ด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์ http://thailogisticsbenchmark.com สุขภาพร่างกายของคนเราหากสมบูรณ์ย่อมส่งผลให้การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ การดำเนินธุรกิจยุค 4.0 ก็เฉกเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากการปรับปรุงสินค้าและบริการ โดยใช้นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ในการพัฒนาต่อยอดแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญที่สุด คือ การปรับองค์กรให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ดังนั้น ปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ต้องปรับตัวและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง มาเช็คสุขภาพธุรกิจของคุณเพื่อความพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่าง มั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน ต่อไป
31 พ.ค. 2562